สาเหตุการเสีย ของการ์ดจอเกิดจาก ตัวชิพมีความร้อนสูงขณะใช้งาน ติดต่อกันเป็นเวลานาน ทำให้สาร "ซิลิคอน" ซึ่งอยู่ในตัวชิพ เสื่อม จนในที่สุดก็ทำงานผิดพลาด ไม่ได้เกิดจากสาเหตุ ที่หลายๆ คนเข้าใจว่า ตะกั่วละลาย เพราะอุณภูมิที่ทำให้ตะกั่วละลายได้ ขั้นต่ำก็ต้อง 150 องศา ถ้าตะกั่วละลาย เครื่องคุณก็ไฟไหม้แล้ว หรือไม่ก็พลาสติกละลาย
สาเหตุที่อบชิพแล้ว สามารถกลับมาใช้ได้อีก เพราะเมื่อสาร "ซิลิคอน" ถูกความร้อน ก็จะเรียงตัวกันจนทำงานได้ ปกติอีกครั้ง (แต่ไม่เต็มร้อย) อุปกรณ์ ที่ทำจาก silicon มีอุณหภูมิสูงสุดที่ junction ได้ระหว่าง 120 ถึง 180 องศาเซลเซียส แต่ด้วยที่ โดนความร้อนเป็นเวลาติดต่อกันนานๆ สารก็มีความเสื่อม เหมือน Battery ถ้าเสื่อมแล้ว ถึงจะชาร์ทไฟใหม่ก็ใช้ได้ แต่ไม่นาน
แล้วทำไม แม้เปลี่ยนตัวใหม่ก็ไม่หายขาด ตัวชิพก็เหมือนถ่านไฟฉาย ถึงไม่ได้ใช้ก็เสื่อมได้ ขอความกรุณา อย่าได้ถามเลยว่า "เปลี่ยนแล้วใช้ได้นานขนาดไหน" ขอตอบแบบตรงๆ เลยว่า "ไม่รู้" แต่ร้านเรารับประกัน 3เดือน ถ้าหากอยากรู้ว่าชิพใช้ได้นานขนาดไหน ให้โทรไปถาม บริษัทผู้ผลิตการ์ดจอ ครับ เพราะเวลามันเสีย มันไม่ได้ Emailหรือ SMS มาบอกเรา ร้านซ่อมทุกร้านเหมือนกันหมด จะต่างกันตรงที่ การทำระบบระบายความร้อน (ที่ร้านใส่แผ่นระบายความร้อนพร้อม ปรับความเร็วรอบพัดลมให้)
หากจะเปลี่ยนก็ขอให้ เผื่อใจไว้ด้วย ว่าอาจใช้ได้สูงสุด 3เดือนตามระยะประกัน บางคนโชคไม่ดี เจอชิพที่เสื่อมมาจากโรงงาน ใน 3 เดือน อาจต้องมาเปลี่ยนอีกรอบ ถ้าจะมาโทษว่าร้านเลือกชิพให้ไม่ดีหรือไม่เลือกชิพดีให้ ถ้าเป็นเช่นนั้น เราขอแนะนำว่า ให้คุณซื้อชิพมาเองเลย เอาที่คุณคิดว่าดีที่สุดมาเลยแล้วกัน เดี๋ยวเปลี่ยนให้ เราคิดค่าเปลี่ยน แต่ ไม่มีประกันให้ นะครับ ลูกค้าต้องไปเอาประกันจากร้านอะไหล่เอง (ไม่มีร้านอะไหล่ร้านไหนเขารับประกัน "ตัวชิพ" ให้หรอกครับ) เครื่องที่ อยู่ได้นานเกิน 3ปี ก็มีครับ คือคนที่ใช้ค่อนข้างถนอม ไม่ได้เอาไปเล่นเกม ติดต่อกันนานๆ ไม่เล่นแบบสบายคือ วางบนหมอน หรือ วางบนผ้าห้ม บน Softcase บางคนบอกเล่นอยู่ตลอดไม่เห็นเป็นอะไร ถือว่าคุณโชคดีครับ ได้บอร์ดและชิพดี
เครื่องที่มาเดิมๆ อุณหภูมิใช้งานปกติ จะอยู่ที่ 50-80 ใช้แบบนี้คงอยู่ได้ยาวๆ แต่เล่นเกม หรือ ดูหนัง หรือ รันโปรแกรม อะไรที่ใช้ กราฟิคสูงๆ ก็จะอยู่ที่ 80-115 องศา
บางร้านบอกซ่อมแล้วอยู่ได้นาน ก็อาจจะมีหลายสาเหตุที่ทำให้เข้าใจแบบนั้น เช่น
- หมดประกันแล้ว ลูกค้าไม่อยากซ่อม กลัวเป็นอีก ร้านที่ซ่อมก็เลยเข้าใจว่า ซ่อมแล้วหายขาด
- เมื่อเป็นอีกก็ลูกค้าก็เปลี่ยนร้านซ่อม ถึงยังไม่หมดประกัน เพราะไม่อยากไปร้านเดิม
- บางร้านบอก "เปลี่ยนมาเป็นปีแล้ว ลูกค้ายังใช้ได้ดี" อาจเป็นไปได้ว่าชิพตัวนั้นคุณภาพยังดีอยู่
ถ้าคิดจะเปลี่ยนชิพการ์ดจอให้นึกถึง "ถ่านไฟฉาย" ว่าคุณจะเอามันไปใช้อย่างไร ให้ไฟมันหมดช้าที่สุด